อะไรคือโทรศัพท์มือถือ(G)?

อะไรคือโทรศัพท์มือถือ(G)?
ประวัติของ โทรศัพท์มือถือ(Generation)

"โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นอุปกรณ์สื่อสารอิเลคทรอนิคส์ลักษณะเดียวกับโทรศัพท์บ้านแต่ไม่ต้องการ สายโทรศัพท์จึงทำให้สามารถพกพาไปที่ต่างๆได้ โทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่าน สถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ โทรศัพท์บ้านและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอื่นๆ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือรุ่นเก่า


       โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนอกจากจะมีคุณสมบัติในการสื่อสารทางเสียงแล้วยังมีความสามารถอื่นอีกเช่นสนับสนุนการสื่อสารด้วยข้อ ความ เช่น SMS ,การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต, การสื่อสารด้วยแบบ Multimedia เช่น
MMS, นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาจับเวลา, ปฏิทิน, ตารางนัดหมาย, สเปรดชีต, โปรแกรมประมวลผลคำ, รวมไปถึงความสามารถในการรองรับแอปพลิเคชันของจาวาเช่น เกมส์ต่างๆได้
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือรุ่นเก่าผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือรุ่นใหม่ 2015ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือรุ่นใหม่ 2015



วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ
อะไรคือโทรศัพท์มือถือ(G)?

ยุค 1G (1st Generation) เริ่มตั้งแต่ยุคแรก ระบบยังเป็นระบบอะนาล็อก (Analog) และมีการแบ่งความถี่ออกมาเป็นช่องเล็กๆ ในยุคนี้เราสามารถใช้งานทางด้าน Voice ได้เพียงอย่างเดียว แต่อย่างไร
ก็ตาม ในยุคนี้ผู้ใช้ก็ยังไม่ได้มีความต้องการที่จะใช้บริการประเภทอื่น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือรุ่นแรกของโลก1G

     ยุค 2G (2nd Generation) เนื่องจากผู้ใช้มีความต้องการและความหลากหลายด้าน การบริการมากขึ้น จึงได้มีการพัฒนาการส่งคลื่นทางคลื่นวิทยุจากแบบอะนาล็อกมาเป็นแบบ digital ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานทางด้านข้อมูลได้นอกเหนือจากบริการเสียง ทำให้ยุคนี้กลายเป็นยุคเฟื่องฟูของโทรศัพท์มือถือ และเพราะการให้บริการทางด้านข้อมูล ทำให้เกิดบริการอื่นๆ ที่ตามมมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นDownload Ringtone
Wallpaper Graphic ต่างๆ แต่บริการในยุคนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือ2g 2G

    ยุค 2.5G (2.5 Generation) หลังจากนั้นเป็นยุคที่อยู่ระหว่าง 2G และ 3G ซึ่งก็คือ 2.5G ใน 2.5G นี้เป็นยุคที่มีการนำเทคโนโลยี GPRS (General Packet Radio Service) มาใช้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลให้มากกว่ายุค 2Gเทคโนโลยี GPRS สามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 115 kbps แต่ ความเร็วของ GPRS ในการใช้งานจริงจะถูกจำกัดให้อยู่ที่ประมาณ 40 kbps เท่านั้น ซึ่งในยุค 2.5G นั้นจะเป็นยุคที่เริ่มมีการใช้บริการในส่วนของข้อมูลมากขึ้น และการส่งข้อความก็พัฒนาจาก SMS มาเป็น MMS โทรศัพท์มือถือก็เริ่มเปลี่ยนจากจอขาวดำมาเป็นจอสี เสียงเรียกเข้า จากเดิมที่เป็นเพียง Monotone ก็เปลี่ยนมาเป็น Polyphonic รวมไปถึง True tone ต่างๆ ด้วย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือ2g2.5G
ต่อมาในยุค 2.75G คือยุคที่ต่อเนื่องมาจาก GPRS แต่จะมีการพัฒนาความเร็วในการส่งข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น และเรียกเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลว่า EDGE (Enhanced Data rates
for Global Evolution) ซึ่งจะมีความเร็วมากกว่า GPRS ประมาณ 3 เท่า หรือมีความเร็วสูงสุดประมาณ 384 kbps แต่มีความเร็วในการใช้งานจริงประมาณ 80-100 kbps

      ยุค 3G (Third Generation) เทคโนโลยีการสื่อสารในยุคที่ 3 นั้นจะเป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานการรับส่งข้อมูล และเทคโนโลยีที่อยู่ในปัจจุบันเข้าด้วยกัน รวมทั้งส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สาย (Wireless) ที่ความเร็วที่สูงกว่ายุค 2.75G นอกจากนี้ 3G ยังสามารถให้บริการมัลติมีเดียได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การรับส่งข้อมูลแอพพลิเคชั่น (Application) รวมทั้งบริการระบบเสียงดีขึ้น เช่น การรับส่ง File ที่มีขนาดใหญ่ การใช้บริการ Video/Call Conference ดาวน์โหลดเพลง ชมภาพยนตร์แบบสั้นๆ ดู TV Streaming ต่างๆได้
ความโดดเด่นของ 3G
    สามารถรับส่งข้อมูลโดยจะเน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยความเร็วสูง ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีรูปแบบใหม่ๆมากขึ้น สามารถให้บริการระบบเสียงและแอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ เช่น เครื่องเล่นวีดีโอ ฟังเพลง Mp3 ดาวน์โหลดเกม แสดงกราฟฟิก และการแสดงแผนที่ตั้งต่างๆ ทำให้การสื่อสารเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ สร้างความสนุกสนาน และสมจริงมากขึ้น รวมถึงการให้บริการ Mobile banking เช่น การโอนเงิน เช็คยอด
เงิน ซื้อขายของ ซึ่งจะทำให้ชีวิตสะดวกสบายและคล่องตัวขึ้นโดยโทรศัพท์เคลื่อนที่เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์แบบพกพา วิทยุส่วนตัว และกล้องถ่ายรูป ผู้ใช้สามารถเช็คข้อมูลใน account ส่วนตัว เพื่อใช้บริการต่างๆ ผ่าน
โทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น self-care (ตรวจสอบค่าใช้บริการ) แก้ไขข้อมูลส่วนตัว ใช้บริการข้อมูลต่างๆ เช่น ข่าวเกาะติดสถานการณ์ ข่าวบันเทิง ข้อมูลด้านการเงิน ข้อมูลการท่องเที่ยว และ ตารางนัดหมายส่วนตัว
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือรุ่นใหม่ 2015ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือรุ่นใหม่ 20153G


โปรโมชั่นพิเศษ Samsung Galaxy S6edge ลด 4,000 บาท

โดยสรุปแล้วแยกได้ดังนี้ครับ

-1G โทรศัพท์เคลื่อนทียุคอนาล็อกให้บริการด้านเสียงเพียงอย่างเดียว
-2G โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคนี้เปลี่ยนจากการสื่อสารแบบอนาล็อกมาเป็นแบบดิจิตอลแทนทำให้มีการใช้งานด้านข้อมูล (data)เพิ่มขึ้น
-2.5G  มีการใช้เทคโลยี GPRS ซึ่งมีความสามารถในการส่งข้อมูลในความเร็วที่สูงขึ้นทำให้ส่งข้อมูลได้หลากหลายกว่าเดิมมาก
-2.75G  เป็นช่วงพัฒนาต่อยอดมาจากGPRS จนกลายมาเป็น EDGEซึ่งมีความเร็วในการส่งข้อมูลได้มากกว่า GPRS ประมาณ 3เท่า
 -3G  โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถรับส่งข้อมูลในความเร็วสูงโดยจะเน้นการเชื่อมต่อแบบ wirelessด้วยความเร็วสูง ทำให้มีบริการมัลติมีเดียได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-4G  ระบบโทรศัพท์มือถือที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ เชื่อกันว่าโทรศัพท์มือถือในยุคนี้จะสามารถสนับสนุน แอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิธสูงเช่น ความจริงเสมือน 3 มิติ (3D virtual reality)
หรือ ระบบวิดีโอที่โต้ตอบได้ (interactive video) เป็นต้น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มือถือ4g 3มิติ


 4G คืออะไร?ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 4g คือ-อะไร

          4G คือชื่อที่ใช้เรียกแทนยุคที่ 4 ของเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือ โดยตัวอักษร G นั้นย่อมาจาก Generation ที่แปลว่ายุคสมัย ซึ่งก่อนหน้านี้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ 1G, 2G และ 3G ที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้กันในปัจจุบัน สำหรับความเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคมีดังนี้

          1G = ยุคเริ่มต้นของโทรศัพท์มือถือ ใช้สัญญาณแบบอนาล็อกล้วน ๆ โทรคุยกันได้อย่างเดียว

          2G = ยุคที่โทรศัพท์มือถือเริ่มมีการส่งข้อมูลแบบดิจิตอล เริ่มมีการส่งข้อความ SMS หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยเทคโนโลยีอย่าง GPRS และ EDGE ได้

          3G = ยุคที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นสมาร์ทโฟนอย่างเต็มรูปแบบ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีอย่าง HSPA (หรือที่เราเห็นไอคอน H บนจอมือถือ)

          4G = ยุคล่าสุดที่เปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยี LTE ซึ่งทำให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วที่สูงกว่า 3G หลายเท่าตัว

           ทั้งนี้แท้จริงแล้วในแต่ละยุคจะมีการพัฒนาแบบย่อย ๆ อีกมากมาย เช่น 2.5G 2.75G, 3.5G, 3.75G, 3.9G ซึ่งจะมีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างหลากหลายกันออกไป

4G ดีกว่า 3G อย่างไร ?


          จุดเด่นหลัก ๆ ที่ 4G ดีกว่า 3G ก็คือความเร็วอินเทอร์เน็ต โดย 3G จะมีความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 200kbit/s หรือ 0.2Mbit/s ส่วน 4G จะมีความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 100Mbit/s ทั้งนี้ความเร็วอินเทอรฺ์เน็ตไม่ว่าจะเป็น 3G หรือ 4G ล้วนขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ, แพ็กเกจที่ใช้ รวมทั้งจำนวนคนที่ใช้งานในพื้นที่และช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งสามารถเปรียบเทียบความเร็วตามแต่ละรูปแบบการใช้งานโดยประมาณได้ดังนี้

โหลดเกมขนาด 20MB

          - 3G ใช้เวลา 3 นาที
          - 4G ใช้เวลา 25 วินาที

สตรีมเพลง

          - 3G ใช้เวลา 10 วินาที
          - 4G ใช้เวลา 1 วินาที

สตรีมวิดีโอ SD

          - 3G ใช้เวลา 20 วินาที
          - 4G ใช้เวลา 1 วินาที

สตรีมวิดีโอ HD

          - 3G ใช้เวลา 1-5 นาที
          - 4G ใช้เวลา 30 วินาที

อัพโหลดรูปภาพ

          - 3G ใช้เวลา 25 วินาที
          - 4G ใช้เวลา 1 วินาที

อยากใช้ 4G ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

          การจะใช้งาน 4G นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่รองรับ 4G หรือ LTE และเปิดใช้งานแพ็กเกจ 4G ของเครือข่ายที่มีให้บริการ เท่านี้ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับอินเทอร์เน็ตความเร็วระดับ 4G ได้แล้ว