วิธีผูกมิตรกับเพื่อนบ้าน

 

สังคมปัจจุบันได้มีการย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองใหญ่มากยิ่งขึ้นแน่นอน ส่งผลให้บรรยากาศบ้านใกล้เรือนเคียงอาจมาจากหลากหลายพื้นที่แต่มาอาศัยอยู่ในสังคมเล็กๆในหมู่บ้านร่วมกัน บางคนอาจคิดว่าเราออกไปทำงานนอกบ้านกลับมาก็พักผ่อนไม่อยากยุ่งเกี่ยววุ่นวายกับใคร แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราเปิดใจทำความรู้จักทักทายเพื่อนบ้าน รักษามิตรภาพที่ดีๆเอาไว้บ้าง เราจะได้อยู่ในสังคมบริเวณบ้านอย่างสงบสุข ไม่อึดอัดใจและไม่สร้างปัญหาในระยะยาวต่อไป เพราะเราก็ต้องอาศัยอยู่ด้วยกันอีกนานจนกว่าจะเปลี่ยนบ้านใหม่อีกครั้ง มาดูกันดีกว่าว่า 5 วิธีผูกมิตรกับเพื่อนบ้านให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมีอะไรบ้าง

 

1.        ทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันสะสมไว้

 

การยิ้มและทักทายเป็นการเริ่มต้นของการผูกมิตรที่ดี การทำความรู้จักเพื่อนบ้านระแวกเดียวกันไว้บ้าง หากมีผู้คนแปลกหน้าไม่คุ้นๆ ก็จะช่วยสังเกตและแยกแยะผู้คนที่ไม่หวังดีได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากทำความรู้จักกันแล้ว ก็ควรจะมีการแบ่งปันกันบ้าง เช่น ใครมีฝีมือทำอาหารอร่อยๆ หรือหาซื้อขนมของฝากติดไม้ติดมือจากการท่องเที่ยวบ้าง หรือของขวัญส่งมอบตามช่วงเทศกาล  สิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่มีให้กันสม่ำเสมอก็จะเป็นมิตรภาพที่หล่อเลี้ยงกันไปอีกยาว

 

2.       ดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนตัวให้อยู่ภายในรั้วบ้านของเรา

 

การอยู่ร่วมกันในสังคมควรคำนึงถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งอยู่บ้านใกล้ๆกันก็อาจกระทบกระทั่งกันได้ง่าย เราควรดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนตัวให้อยู่ภายในเขตรั้วบ้านให้ดี เช่น ตัดแต่งต้นไม้ไม่ให้กิ่งก้านขยายไปข้างบ้านมากเกินไป จอดรถ/ตากผ้าภายในรั้วบ้าน เนื่องจากพื้นที่นอกรั้วบ้านถือเป็นพื้นที่สาธารณะทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ การจับจองพื้นที่รอบบ้านเป็นของตัวเองจะส่งผลให้ผู้อื่นที่อยู่ในระแวกเดียวกันไม่ได้ความสะดวกในการอยู่ร่วมกันเพิ่มมากขึ้น

 

3.       ต่อเติมบ้านให้เหมาะสม

 

ปัจจุบันโครงการบ้านจัดสรรที่มีโครงสร้างโดยรวม อาจสร้างฟังค์ชั่นการใช้งานไม่ครบตามความต้องการใช้งานของแต่ละครอบครัว บ้านแต่ละหลังจึงมีการต่อเติมเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากการต่อเติมที่หวังผลประโยชน์ของตัวเองมากจนเกินไปอาจกระทบต่อผู้อยู่อาศัยหลังอื่นๆด้วย ดังนั้นก่อนทำการต่อเติมควรพิจารณาแบบให้รอบคอบและหากต่อเติมโครงสร้างหนักอาจต้องแจ้งและปรึกษากับเพื่อนบ้านก่อนดำเนินการ เพราะหากต่อเติมไปแล้วทำให้บ้านผู้อื่นได้รับความเสียหายก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการซ่อมแซมและเกิดความบาดหมางใจกันเป็นของแถมให้แก่กัน

 

4.       ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเพื่อนบ้าน

 

การทำความรู้จักเพื่อนบ้านระแวกเดียวกัน ทำให้เราช่วยแยกแยะคนแปลกหน้าหรือคนประสงค์ร้ายได้ง่ายขึ้น หรือหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น กลุ่มเพื่อนบ้านที่เข้มแข็งก็จะดูแล ช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยกันแก้สถานการณ์ไม่ให้แย่หนักไปกว่าเดิม เช่น ท่อน้ำภายในบ้านรั่ว ทำให้ปั๊มน้ำทำงานตลอดเวลา เพื่อนบ้านอาจสังเกตเห็นและแจ้งเตือนให้เราตรวจสอบระบบน้ำก่อนปั๊มน้ำทำงานหนักจนเสียหายได้

 

5.       ขอความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆจากเพื่อนบ้าน

 

การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ซึ่งอาจเป็นการขอความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่รบกวนหรือสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านมากเกินไป เช่น การขอยืมอุปกรณ์ในบ้านใช้ชั่วคราวและคืนตามสภาพเดิมให้เรียบร้อย หรือขอคำปรึกษากับเพื่อนบ้านที่มีประสบการณ์ในการซ่อมแซม/การต่อเติมแบบต่างๆ เป็นต้น

 

5 วิธีง่ายๆสำหรับการผูกมิตรกับเพื่อนบ้านเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกัน หากเราอาศัยหลักคิดของการเอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น ลดความเห็นแก่ตัวลงก็จะทำให้ช่องว่างความห่างเหินของรั้วข้างบ้านลดลง ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเครื่องมืออิเลคโทรนิคช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากขึ้น แต่การที่มิตรภาพดีๆระหว่างเพื่อนบ้านมีคุณค่ามากกว่านั้น หมั่นคอยดูแลรักษาน้ำใจกันอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้เราอยู่ในสังคมเล็กๆ ภายในบ้านและนอกรั้วบ้านอย่างสงบสุขได้ไม่ยากนะครับ